ออกบูธธุรกิจอย่างไรให้โดดเด่นและดึงดูดลูกค้า

ออกบูธธุรกิจอย่างไรให้โดดเด่นและดึงดูดลูกค้า

 

ออกบูธธุรกิจอย่างไรให้โดดเด่นและดึงดูดลูกค้า

 

 

        การนำธุรกิจไปออกบูธเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่มีความเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและบริการ การออกบูธจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบริษัทควรต้องดำเนินการ แต่การออกบูธให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ออกไปตั้งแผงโชว์และจำหน่ายสินค้าพอหมดวันก็เก็บของแยกย้ายกลับเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงวิธีทำให้การออกบูธธุรกิจมีความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชมด้วย และเคล็ดลับการออกบูธให้โดดเด่นและดึงดูดลูกค้ามีดังต่อไปนี้

1. กำหนดเป้าหมายการออกบูธไว้ล่วงหน้า

       การกำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการ เพราะการไปออกบูธหากขาดการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนก็แทบไม่สามารถวัดความสำเร็จได้เลยว่าได้อะไรกลับมาบ้าง ดังนั้นผู้ประกอบการต้องวางเป้าหมายการออกบูธให้ชัดเจนก่อนว่าต้องการอะไร เช่น ยอดขายสินค้าเป็นจำนวนชิ้น รายได้ ฐานข้อมูลลูกค้า จำนวนผู้เข้าชม ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้จะเป็นตัวกระตุ้นผู้ประกอบการและลูกน้องให้เร่งทำผลงานเพื่อให้ได้ตรงตามเป้าที่วางไว้

2. จัดบูธ เวที แสง สี เสียงให้อลังการ

       ถ้าผู้ประกอบการไปออกบูธงานจัดแสดงและมีบูธธุรกิจใหญ่มาก การจัดพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นส่วนเวทีแสดง ที่นั่งลูกค้า และซุ้มสินค้า ฯลฯ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผู้ประกอบการต้องเก็บรายละเอียดและให้ความสำคัญส่วนนี้ให้มากเป็นพิเศษ ซึ่งทุกอย่างต้องเข้ากันได้อย่างกลมกลืนกับธีมหลักของงานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเวทีที่สามารถมองเห็นได้จากทุกทิศทางและโดดเด่น แสงสีเสียงที่ตระการตาน่าดึงดูด ซุ้มสินค้าที่ตั้งโดดเด่นภายในงาน แต่ถ้าหากงานที่ผู้ประกอบการไปออกแสดงเป็นพื้นที่ที่แบ่งเอาไว้เป็นล็อกๆ ไม่ได้กว้างมากนักและต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น เราก็ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องการตกแต่งและทำให้ออกมาสวยงามอยู่ดี แต่จะเน้นไปที่บอร์ดจัดแสดง Pop up, Roll up และธงแบบญี่ปุ่น แต่รูปแบบยังคงต้องจัดออกมาให้เข้ากับธีมที่กำหนดไว้และต้องมีจุดเด่นเหมือนเดิม

3. สื่อที่ใช้แสดงในการออกบูธ

      หลังจากให้ความสำคัญเรื่องเวที แสง สี เสียงแล้ว ส่วนต่อมาที่ต้องให้ความสำคัญก็คือสื่อที่ใช้นำมาจัดแสดงในการออกบูธไม่ว่าจะเป็นแอลซีดีทีวี จอมอร์นิเตอร์ขนาดใหญ่ ลำโพง ต้องมีความพร้อมและสมบูรณ์แบบมากที่สุด เพราะมันคือสิ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจได้ในอันดับต้นๆ ของงานเลยก็ว่าได้ สามารถเรียกให้ลูกค้าทุกคนหยุดชมหรือเดินเข้ามาดูหากว่าพบเห็นจากในระยะไกล

4. MC คือโทรโข่งผู้เรียกลูกค้าเข้าบูธ

       ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากจะออกบูธธุรกิจให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องพึ่งความสามารถของพิธีกรหรือผู้มารับหน้าที่เป็น MC ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้ประกอบการต้องคัดเลือกและว่าจ้างผู้มีทักษะเรื่องนี้มารับหน้าที่แนะนำสินค้าและบริการภายในบูธ ซึ่งการคัดเลือกต้องดูที่บุคลิกภาพ รวมถึงทักษะการพูดเพื่อสื่อสารและมนุษย์สัมพันธ์กับลูกค้าเป็นสำคัญ แนะนำให้เลือกพิธีกรที่มีอารมณ์ขันเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์เวลาที่เจอการท้าทายจากลูกค้าได้ นอกจากนี้หากผู้ประกอบการคิดจะใช้พนักงานของตนเองแทนที่การว่าจ้างพิธีกรจากภายนอกก็ขอให้ใช้หลักเดียวกันในการคัดเลือก แต่ขอให้เพิ่มในส่วนของความรู้ในเรื่องของสินค้าและบริการที่นำไปออกบูธเข้าไปด้วย

5. พริตตี้สร้างแรงดึงดูดเข้าบูธ

       สาวสวยเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่อาจช่วยให้ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยความสวยงามและการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์จึงมักทำให้บูธตรงเป็นเป้าสนใจจนอยากเข้าชมทันทีที่พวกเธอมายืนแนะนำสินค้าอยู่ด้านหน้า ซึ่งการจ้างพริตตี้แม้จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะพริตตี้บางคนมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการน้อยมากและอาจไม่สนใจจะศึกษาเพิ่มเติมด้วย จึงไม่สามารถให้ข้อมูลกับลูกค้าได้เท่าที่ควร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคัดเลือกพริตตี้ที่จะเป็นตัวเด่นในงานออกบูธของผู้ประกอบการให้ดีด้วย

6. จัดกิจกรรมเล่นเกมแจกของรางวัลในบูธ


       การจัดกิจกรรมเล่นเกมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นจนลูกค้าอาจแวะเข้ามาชมบูธของเราก็ได้ ชนิดที่ว่าสามารถกลบคู่แข่งที่มาออกบูธข้างๆ ได้อย่างไม่เห็นฝุ่น เพราะการเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและสามารถเรียกร้อยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้นได้จึงได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ โดยเกมที่เล่นเพื่อชิงของรางวัลอาจเป็นเกมง่ายๆ เช่น จับฉลาก เปิดแผ่นป้าย หรือประยุกต์เอาการละเล่นพื้นบ้านในอดีตของไทยมาใช้ก็เป็นแนวทางที่สามารถทำได้

7. ของแจกภายในงาน

       ไม่ว่าเป็นใครต่างก็ชื่นชอบของฟรี การแจกสินค้าฟรีภายในบูธจึงเป็นเทคนิควิธีการที่เรียกความสนใจจากลูกค้าได้ดีที่สุด พวกเขาจะมากันชนิดที่เรียกกันว่าถล่มทลายเลยทีเดียว วิธีการนี้แม้จะได้ผลดีและรวดเร็ว แต่มีความเสี่ยงที่สูงมากว่าเป้าหมายที่แท้จริงของผู้ประกอบการอาจสื่อสารไปไม่ถึงกลุ่มลูกค้า เพราะลูกค้าต่างมัวแต่ไปรุมแย่งของฟรีกันหมด ผู้ประกอบการจึงต้องหาวิธีการสอดแทรกเนื้อหาสาระลงไปด้วย

8. สินค้าและบริการคือพระเอกที่แท้จริง

       เคล็ดลับทั้งหมดที่กล่าวมาก่อนหน้านี้เป็นเทคนิคที่ดีมากที่ช่วยให้งานออกบูธแสดงสินค้าโดดเด่นและดึงดูดใจลูกค้า แต่นั่นเป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น เพราะหัวใจสำคัญอยู่ที่สินค้าและบริการต่างหากที่เป็นพระเอกตัวจริงของงาน ดังนั้นหากงานออกบูธแสดงสินค้าและบริการจะประสบความสำเร็จได้ คุณภาพและความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าคือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เราต้องนึกถึง โดยเราอาจจัดพื้นที่เพื่อใช้สาธิตการใช้งานสินค้า เพราะจะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถเห็นความสามารถและประโยชน์ที่แท้จริงของสินค้าหรือบริการได้

       แก่นแท้ของเทคนิคนำธุรกิจไปออกบูธให้โดดเด่นและดึงดูดใจลูกค้าคือการเปิดเกมรุกจู่โจมเข้าใส่กลุ่มลูกค้าโดยทันที หาใช่เป็นการไปออกบูธแสดงตัวเฉยๆ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีความคิดสร้างสรรค์บวกกับวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจจึงจะเป็นหลักการคิดที่ถูกต้องและจะประสบความสำเร็จทุกครั้งที่ไปออกบูธซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปสู่การทำธุรกิจในอนาคตอย่างแน่นอน




บทความแนะนำจาก : INCquity

 13726
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลยุทธ์การขายของตามฤดูกาล (Seasonal Marketing Strategy) หมายถึง การตลาดตามฤดูกาลจริงๆ (ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ) และการตลาดตามเทศกาลต่างๆ ด้วยการกระตุ้นยอดขายสินค้าจากเทศกาลมาทำการตลาดเชิงรุก
เทคนิคการตลาดที่น่าสนใจเรียกว่า “คิดแบบย้อนศร” คือการลองพลิกมุมมองความคิดไปอีกด้านหนึ่ง จากซ้ายไปขวา จากผู้ผลิตไปเป็นผู้บริโภค ไม่แน่ว่าอาจทำให้หาคำตอบในสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และมองเห็นถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่
การตลาด (Marketing) คือศาสตร์แห่งการทำให้ธุรกิจนั้นก้าวไปข้างหน้าจนลูกค้ามาซื้อ การตลาดแบบง่ายๆ ที่คุณเห็นตั้งแต่นอนอยู่บนเตียงก็คือ "การโฆษณา" (Advertising) ไม่เชื่อก็ลองสไลด์มือถือเฟซบุ้คของคุณดูก็ได้ โฆษณาก็จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอแบบอัตโนมัติ สิ่งที่การตลาดทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดของธุรกิจก็คือการตัดสินใจซื้อก็จะต้องเริ่มจากงานโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
การยกเลิกสินค้าเป็นปัญหาหลักๆสำหรับทุกธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเหตุผลที่อาจเป็นไปได้คือ ค่าส่ง,ยอดรวมของสินค้าแพงเกินไป,ความยุ่งยากในการคืนสินค้า/ไม่มีนโยบายการคืนสินค้า,ไม่มีตัวเลือกการชำระเงิน,ปัญหาด้านความปลอดภัย ดังนั้นคุณจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-739-5902

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-739-5903

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์