4 เหตุผลที่ธุรกิจเมื่อโตแล้วควรขยายสาขา

4 เหตุผลที่ธุรกิจเมื่อโตแล้วควรขยายสาขา



เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าธุรกิจที่เราทำอยู่กำลังขายดี มีลูกค้ามากมาย รายได้แต่ละเดือนก็ไม่น้อย หักลบกลบหนี้แล้ว เหลือกินเหลือเก็บอีกเพียบ คิดในแง่ดีนี่คือสุดยอดธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแน่แท้ แต่ทำไมบางคนกลับเลือกที่อยากจะขยายสาขา ซึ่งถ้ามองด้านลบก็คือการเพิ่มความวุ่นวายให้ตัวเอง ต้นทุนก็เพิ่ม รายจ่ายก็เพิ่ม ปัญหาก็เพิ่ม ความเสี่ยงก็เพิ่ม แต่สิ่งที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองเห็นนั้นคืออีกด้าน การขยายสาขาเมื่อในช่วงเวลาอันเหมาะสมไม่ใช่การเพิ่มภาระให้กับธุรกิจตัวเอง หากแต่คือการลดความเสี่ยงอันจะเกิดในอนาคตที่หลายคนอาจมองข้ามและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการขยายสาขามีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจบ้าง

 
เราเรียกการขยายสาขาว่าเป็นหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจ การลงทุนก็ไม่ต่างจากการปลูกต้นไม้ ต้นทุนธุรกิจเราเพิ่มขึ้นทุกปี นั้นก็หมายถึงยอดขายเราก็ต้องมีการขยับเพิ่มขึ้นตามด้วย หากปีไหนขายดิบขายดีมีกำไรมากก็ดีไป แต่ถ้าปีไหนเกิดขายได้น้อยลง มีคู่แข่งมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย ความซวยก็จะมาเยือนธุรกิจเราได้ทันทีเช่นกัน

การที่ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวแต่ไม่ทำก็เหมือนเป็นสัญญาณบ่งชี้วิสัยทัศน์ของผู้ลงทุนว่าเสี่ยงต่อการเจ๊งย่อยยับในอนาคตหลายคนสินค้าดีมาก แต่กลับมั่นใจอยู่แค่นั้นไม่คิดพัฒนาสินค้าต่อจนจนคู่แข่งตามทันและแซงหน้าสุดท้ายยอดขายหาย รายได้หด หรือบางคนก็คิดแต่จะกินบุญเก่า เอาแต่ลูกค้าเก่าๆ ไม่คิดหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สักวันหนึ่งที่คู่แข่งมีมากขึ้น เชื่อมั่นได้แค่ไหนว่ากลุ่มลูกค้าเก่าของเราจะยังภักดีต่อแบรนด์ของเราไม่เปลี่ยนไปหาคู่แข่งคนอื่น

 
ไม่นับรวมการที่ผู้ลงทุนบางคนไร้ซึ่งการพัฒนาตัวเองอย่างสิ้นเชิง ไม่รู้จักการสรรหาระบบการทำงาน เทคโนโลยีเอามาใช้กับธุรกิจ หลายคนเชื่อแต่ความคิดตัวเองไม่เชื่อว่าโปรแกรมหรือเครื่องมือจะทำงานได้ดีกว่า นั้นคือตัวเองแบกรับงานทุกอย่างไว้ที่ตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการทำงานทุกอย่างตัดสินใจตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เรียกว่าหยุดไม่ได้ห้ามพัก ห้ามป่วย ห้ามหาย มิฉะนั้นธุรกิจมีหวังหยุดอยู่กับที่เดินหน้าไม่เป็นแน่นอน 

ในความเป็นจริงเจ้าของกิจการไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกเรื่องแต่ควรมีวิสัยทัศน์ในการบริหารที่ดี รู้ว่าอะไรควรนำมาใช้เพื่อแบ่งเบาภาระตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในอนาคต สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้คือมุมมองอีกด้านที่บอกว่าการขยายสาขาให้ธุรกิจนั้นมีประโยชน์อย่างไร แต่หากยังมองภาพไม่ชัด  ลองดู 4 เหตุผลนี้ให้ดีแล้วจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น
 
1. โอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีกว่าเดิม
การขยายกิจการ คือการสร้างและขยายฐานของรายได้ของธุรกิจให้มากไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าเดิม การคิดค้นและผลิตสินค้าใหม่ แต่ยังคงมีการพัฒนาและรักษามาตรฐาน รวมไปถึงรักษาจุดแข็งของธุรกิจไว้  เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันทางตลาด ซึ่งจะทำให้เราไม่ตกเป็นรองคู่แข่งและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีในอนาคตด้วย

2. ลดความเสี่ยงในการขาดทุน
การเพิ่มสาขาเท่ากับเป็นการกระจายความเสี่ยงออกไป สาขาเดิมที่เราเคยขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในสักวันหนึ่งอาจถูกทดแทนด้วยคู่แข่งที่ดีกว่า หรือบางทีทำเลที่เปลี่ยนไปก็อาจทำให้ยอดขายเรามีผลกระทบได้ หากเราไม่มีสาขาอื่นมาทดแทนในกรณีนี้ เมื่อร้านเดียวที่เรามีเกิดปัญหา ย่อมส่งผลกระทบใหญ่หลวงถึงขั้นอาจต้องปิดกิจการแต่ถ้ามีสาขาอื่นๆมารองรับเอาไว้ก็ยังผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

3. โอกาสในการเพิ่มลูกค้าใหม่
เมื่อขยายสาขาก็แน่นอนว่าต้องมีการขยับไปสู่ทำเลใหม่ คนที่เป็นลูกค้าก็จะมีหน้าใหม่ๆ มากขึ้น  หากจมปลักอยู่กับพื้นที่เดิม ลูกค้าเดิม วันหนึ่งก็ลูกค้าเองก็อาจจะต้องมีการโยกย้ายหรือหายไป เชื่อมั่นได้แค่ไหนว่าคนที่เข้ามาในพื้นที่ใหม่จะเป็นลูกค้าเราในเมื่อเขามีตัวเลือกสินค้าแบบเดียวกันที่เปิดแข่งขันมากมาย  ดังนั้นการขยายสาขาจึงเป็นมากกว่าการเติบโตแต่มันคือการรุกเข้าหาลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจของการอยู่รอดที่จะรอลูกค้ามาหาเราอย่างเดียวไม่ได้ 

4. เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ระหว่างธุรกิจที่เราเดินไปไหนก็เจอกับบางธุรกิจที่เปิดอยู่แห่งเดียว เอาตัวเราเป็นจุดศูนย์กลางคิดดูว่าเราจะเชื่อมั่นกับธุรกิจแบบไหนมากกว่ากัน นั้นคือคำตอบในเรื่องความเชื่อมั่น และการเห็นสาขาของเราในหลายๆที่ก็เหมือนเป็นการย้ำแบรนด์ให้ติดอยู่ในใจผู้บริโภค เหมือนที่เซเว่นอีเลฟเว่นเปิดแทบจะทุกตรอกซอกซอย ก็ทำให้คนรู้สึกว่านี่คือกิจการที่ดี กิจการที่คนนิยม มีความเชื่อมั่นในการใช้บริการมากขึ้น 

การทำธุรกิจใดๆ ก็ตามเราไม่ได้แข่งกับตัวเองเท่านั้นแต่เราแข่งกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง ทำไมร้านค้าปลีกหลายแห่งจากที่เคยขายดีวันนี้ถึงต้องปิดตัวลง ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่มีการพัฒนาธุรกิจที่ก้าวตามยุคสมัย ไม่มีการกระจายสาขาเพื่อลดความเสี่ยง  การมีร้านเดียวที่เดียวแห่งเดียว อาจจะได้เปรียบเรื่องคุณภาพมาตรฐานที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่หากจะลงทุนเพื่อความอยู่รอดเรามีวิธีมากมายที่ขยายสาขาเพิ่มขึ้นและคุณภาพในสินค้าและบริการไม่ลดลงที่สำคัญมีผลดีต่อธุรกิจในระยะยาวด้วย 

ที่มา : http://www.thaifranchisecenter.com/
 9063
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรมบริหารงานบุคคล หรือ โปรแกรม HR คือ Human Resource Management Software เป็นซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยฝ่ายบุคคลในการจัดการงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล และยังช่วยจัดการข้อมูลของพนักงานให้เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการทำงานด้านเอกสารต่างๆ ของ HR ได้หลายประเภท
ระบบลางาน ลงเวลาออนไลน์ ESS พนักงานสามารถลงเวลาเข้า – ออกงาน ผ่านมือถือ ได้ทุกที่ ทุกเวลา หากพนักงานทำงานนอกสถานที่ ก็สามารถลงเวลาผ่านเว็บไซต์บนมือถือได้ เป็นระบบที่ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจยุคใหม่ และการทำงานยุค Work Anywhere
ระบบลาออนไลน์ Employee Self-Service (ESS) ใช้งานง่ายผ่านระบบออนไลน์ จัดการและบริหารข้อมูลส่วนบุคคลได้เหนือกว่า และรองรับการทำงานของระบบ HRMI แบบ Real Time
เคยมีเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาถามว่างาน Payroll เนี่ยเขาทำอะไรกันบ้าง ทั้งนี้เพราะโดยทั่วไปชาว HR เราจะได้รับการฝึกอบรมแต่เฉพาะเรื่องหลักๆ เช่น การสรรหาและคัดเลือก การฝึกอบรม การบริหารแรงงานสัมพันธ์ และบริหารค่าตอบแทน ซึ่งการบริหารค่าตอบแทนก็จะเรียนกันในเรื่องการโครงสร้างค่าจ้าง การวิเคราะห์งาน การประเมินผลงานเป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ค่อยทราบกันว่าแล้วขั้นตอนที่จะจ่ายเงินจริงๆ ให้กับพนักงานหรือ Payroll เขาทำกันอย่างไร
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์