3 เทรนด์ Digital Marketing ที่ต้องรู้ให้ทัน

3 เทรนด์ Digital Marketing ที่ต้องรู้ให้ทัน



  • อย่างที่ทราบกัน ในยุคดิจิทัลพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลไปงอย่างรวดเร็ว  ผู้ปนะกอบการจึงต้องคอยอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
  • นี่คือแนวโน้มสำคัญของ Digital Marketing ที่สำรวจมาจากเฟซบุ๊กและกูเกิลที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยปี 2563
     เดี๋ยวนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงต้องรู้ให้ทันเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่มาเข้ามาเรื่อยๆ โดยอาจารย์ลลิตา สันติวรรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน digital marketing ได้สรุป 3 แนวโน้มสำคัญของ Digital Marketing ที่สำรวจมากจากเฟซบุ๊กและกูเกิลที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยปี 2563 เอาไว้ว่า  

1. จับตามอง Discovery Generation
Discovery Generation เป็นกลุ่มคนที่เปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ ยอมรับเรื่องใหม่ๆ ได้ง่าย ไม่ยึดติดกับแบรนด์ เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์จะใช้วิธีค้นหาไปเรื่อยๆ พอเจอสินค้าที่ถูกใจถึงจะตัดสินใจซื้อ ยกตัวอย่างเช่น หากเจอสินค้าแบรนด์ใหม่ที่ไม่เคยใช้ แต่ว่ามีอะไรสักอย่างที่ถูกใจ ก็ยินดีที่จะละทิ้งแบรนด์เดิมไปลองแบรนด์ใหม่ได้ในทันที ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจก็คือ ยอดรีวิวสินค้าเชิงบวกจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ ราคาหรือโปรโมชันที่ดึงดูด และความน่าสนใจของตัวผลิตภัณฑ์เอง  

2. Omni Cannel กลายเป็นวิถีชีวิตของผู้บริโภคไทย
ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์การชอปปิงที่เชื่อมต่อกันอย่างราบรื่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์  โดยโซเชียลมีเดียยังคงเป็นช่องทางหลักในการค้นพบสินค้าหรือแบรนด์ใหม่ๆ แต่ช่องทางออฟไลน์ก็ยังมีผลต่อธุรกิจเช่นกัน ทั้งนี้ในมุมมองของเฟซบุ๊กจะมองว่าพฤติกรรมของคนซื้อสินค้า คือยังชอบค้นหาทางออนไลน์แล้วไปซื้อที่ร้าน หรือค้นหาออนไลน์แล้วไปดูที่ร้าน ดูข้อมูลบนเว็บไซต์ด้วย ฉะนั้น ทั้งออนไลน์และออฟไลน์จึงขาดกันไม่ได้ ส่วนฝั่งกูเกิลมองว่าคนนิยมใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบราคา เช่น อยู่ที่ร้านมีสินค้าที่อยากได้แต่จะยังไม่ซื้อ จะเซิร์ชเพื่อเช็คก่อนว่าราคากลางอยู่ที่เท่าไหร่ หรือมีที่ไหนถูกกว่าหรือไม่ โดยผู้บริโภคชาวไทย 1 ใน 5 คนจะใช้กูเกิลเซิร์ช ขณะตัดสินใจซื้อสินค้าที่หน้าร้าน  

3. ธุรกิจแบบ On-demand กำลังเติบโต
ผู้บริโภคทุกวันนี้คาดหวังความสะดวกสบายจากทุกธุรกิจและบริการที่ใช้ โดยจะเห็นได้จากมีความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองแบบทันใจมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยังต้องการความสะดวกสบายที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่น มีการค้นหาบริการเรียกรถออนไลน์ เพิ่มขึ้น 127 เปอร์เซ็นต์ และบริการส่งของ 85 เปอร์เซ็นต์ แต่มีการค้นหาส่งฟรี  223 เปอร์เซ็นต์ และส่งของโปรโมชั่น 117 เปอร์เซ็นต์  ทั้งหมดนี้เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นบริการ On-demand ที่กูเกิลมองว่าเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน

ที่มา : www.smethailandclub.com
 559
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

โปรแกรมบริหารงานบุคคล หรือ โปรแกรม HR คือ Human Resource Management Software เป็นซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยฝ่ายบุคคลในการจัดการงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล และยังช่วยจัดการข้อมูลของพนักงานให้เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการทำงานด้านเอกสารต่างๆ ของ HR ได้หลายประเภท
ระบบลางาน ลงเวลาออนไลน์ ESS พนักงานสามารถลงเวลาเข้า – ออกงาน ผ่านมือถือ ได้ทุกที่ ทุกเวลา หากพนักงานทำงานนอกสถานที่ ก็สามารถลงเวลาผ่านเว็บไซต์บนมือถือได้ เป็นระบบที่ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจยุคใหม่ และการทำงานยุค Work Anywhere
ระบบลาออนไลน์ Employee Self-Service (ESS) ใช้งานง่ายผ่านระบบออนไลน์ จัดการและบริหารข้อมูลส่วนบุคคลได้เหนือกว่า และรองรับการทำงานของระบบ HRMI แบบ Real Time
เคยมีเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาถามว่างาน Payroll เนี่ยเขาทำอะไรกันบ้าง ทั้งนี้เพราะโดยทั่วไปชาว HR เราจะได้รับการฝึกอบรมแต่เฉพาะเรื่องหลักๆ เช่น การสรรหาและคัดเลือก การฝึกอบรม การบริหารแรงงานสัมพันธ์ และบริหารค่าตอบแทน ซึ่งการบริหารค่าตอบแทนก็จะเรียนกันในเรื่องการโครงสร้างค่าจ้าง การวิเคราะห์งาน การประเมินผลงานเป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ค่อยทราบกันว่าแล้วขั้นตอนที่จะจ่ายเงินจริงๆ ให้กับพนักงานหรือ Payroll เขาทำกันอย่างไร
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์