Value Proposition คุณค่าที่มีไว้เอาชนะคู่แข่ง

Value Proposition คุณค่าที่มีไว้เอาชนะคู่แข่ง



Value Proposition เป็นศัพท์ทางการตลาดคำหนึ่ง แปลตรงๆ ก็คือ "คุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า" พูดง่ายๆ ก็คือถ้าคุณขายสินค้าคล้ายกับคู่แข่ง บางที่อาจจะมียี่ห้อเดียวกันด้วยซ้ำ มีความแตกต่างกันน้อยมาก นับว่าเป็นศาสตร์ทางการตลาดที่เอาไว้ใช้สร้างความแตกต่างด้วยคุณค่าที่ส่งมอบให้กับลูกค้าเหนือคู่แข่ง ซึ่งเรื่องนี้ผมจะกล่าวถึงเทคนิคที่นักขายสามารถเอาความรู้ตรงนี้มาใช้ประยุกต์กับการขาย เพื่อเอามาใช้ไล่บดขยี้คู่แข่งคุณ ในกรณีที่คุณขายสินค้าตัวเดียวกับคู่แข่
ในฐานะที่คุณเป็นนักขาย คุณต้องค้นหา Value Proposition ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของคุณ ตัวสินค้า การบริการ และที่สำคัญที่สุดก็คือ "คุณค่าจากตัวคุณ" ที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าเหนือคู่แข่งให้ได้ การหา Value Proposition สำหรับนักขายเพื่อใช้เอาชนะคู่แข่ง มีดังนี้

1. ถ้าคุณและคู่แข่งขายสินค้ายี่ห้อเดียวกัน

ในกรณีที่คุณขายสินค้าเหมือนกับคู่แข่ง ยี่ห้อเดียวกัน ราคาแทบไม่ต่างกัน นำเสนองานโครงการเดียวกัน เช่น ลูกค้าต้องการคู่เทียบ 3 เจ้าสำหรับผู้เสนอเครื่องคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ Acer ราคาแทบไม่หนีกันมาก คุณควรมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอคุณค่าของบริษัทที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์ ดังนี้

- ทีมงานติดตั้งระบบมืออาชีพ น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ 

- การส่งมอบงานที่ตรงเวลา รวดเร็ว

- ระบบบริการหลังการขายที่รวดเร็ว ฉับไว แก้ปัญหาได้ตรงจุด

- ระบบเครดิตเพื่อช่วยในเรื่องการรับชำระเงิน

- Success Story & Port

- ราคา (เอาไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย)

- ฯลฯ

2. ถ้าคุณและคู่แข่งขายสินค้าคนละยี่ห้อกัน มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
ในกรณีที่คุณขายสินค้าคนละยี่ห้อกับคู่แข่ง แต่คุณสมบัติของสินค้าใกล้เคียงกันตามข้อกําหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR: Term of Reference) ราคาแทบไม่ต่างกัน นำเสนองานโครงการเดียวกัน เช่น ลูกค้าต้องการคู่เทียบ 3 เจ้าสำหรับผู้เสนอเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในองค์กร ไม่ระบุยี่ห้อ คุณควรมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอคุณค่าของบริษัทและตัวสินค้า ที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์ 

ส่วนใหญ่สินค้าคนละยี่ห้อกัน แต่ต้องแข่งขันในข้อกำหนด (TOR) เดียวกัน ผมขอให้คุณทำความเข้าใจกับตัวสินค้า เช่น สินค้าคือโน้ตบุ้ค ภายในเครื่องประกอบด้วย CPU ยี่ห้อ Intel, Hard Disk, RAM, ระบบปฎิบัติการ ฯลฯ ซึ่งมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่ว่าแต่ละแบรนด์จะมีคุณสมบัติบางอย่างซ่อนอยู่ที่เหนือกว่า คุณต้องหามันให้เจอให้ได้ ดังนี้

- คุณสมบัติบางประการของสินค้าที่เหนือกว่า เช่น ระบบป้องกันการจารกรรม เป็นต้น

- ในราคาที่เท่ากัน สเปคของคุณมีคุณสมบัติที่สูงกว่าเจ้าอื่น เช่น CPU, RAM, HDD ดีกว่า แรงกว่า

- การรับประกันสินค้าที่ยาวนานกว่าคู่แข่ง

- ระบบการเคลมสินค้า เคลมอะไหล่ ในกรณีที่สินค้าเสียหาย

- งานบริการหลังการขายที่ดีกว่า เช่น มีช่าง On-Site มีศูนย์บริการทั่วประเทศ เป็นต้น

- ข้อดีทั้งหมดที่บริษัทคุณมีดีและมีคุณค่า

สิ่งเหล่านี้เป็นคุณค่าที่คุณต้องชี้แจงให้ลูกค้าทราบให้ชัดเจน นำเสนอให้ตรงกับความต้องการและตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด อะไรที่ไม่เกี่ยว ไม่ต้องเสนอ เพื่อให้ลูกค้ามองคุณค่าและสิ่งที่คุณส่งมอบให้เป็นหลัก คุณจะมีแต้มต่อเหนือคู่แข่ง แม้แต่สงครามราคาที่คุณอาจจะแพงที่สุด แต่ลูกค้าก็มีสิทธิ์ซื้อคุณได้ถ้าพวกเขาเข้าใจคุณค่าที่คุณสร้างมาและตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้า

3. สร้างคุณค่าความเป็นนักขายในตัวคุณให้เหนือกว่าคู่แข่ง
ผมได้พูดถึงการค้นหาคุณค่าของตัวสินค้าและบริษัทที่คุณควรส่งมอบให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ผมต้องการเน้นย้ำที่สุดคือเรื่องการสร้างคุณค่าในตัวคุณเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด ในกรณีที่ข้อเสนอทุกอย่างเหมือนกัน มวยไซส์เดียวกัน สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างและทำให้คุณเป็นผู้ชนะก็คือ "คุณค่าของตัวคุณเอง" นี่แหละครับ มาดูวิธีการกันเลย

- พบลูกค้าตรงเวลาทุกครั้ง ตั้งแต่แรก

- นำเสนอได้อย่างมืออาชีพ ตอบโจทย์ มีการถามคำถามที่ดี 

- บุคลิกสุภาพ มั่นใจ น่าเชื่อถือ ไม่ขี้โม้ ไม่ตอแหล 

- เป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า เช่น ให้คำแนะนำเรื่องการตั้งงบประมาณ ตัวเลขความคุ้มค่าในการลงทุน ฯลฯ

- ติดตามงานลูกค้าได้ดี ไม่กดดัน เน้นการเข้าพบเพื่อช่วยเหลือหรือนำข่าวดีมาบอกลูกค้าเป็นหลัก

- ทำงานได้รวดเร็วมาก 

- รักษาคำพูด ทำอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันการผิดพลาดเสมอ

- คุยถูกคน 

- เข้าพบลูกค้าสม่ำเสมอและทันทีที่มีการเรียกคุณเข้าพบ ตามแผนการติดตามงานที่วางเอาไว้

- ฯลฯ

ที่มา : www.sales100million.com

 9350
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การตลาด (Marketing) คือศาสตร์แห่งการทำให้ธุรกิจนั้นก้าวไปข้างหน้าจนลูกค้ามาซื้อ การตลาดแบบง่ายๆ ที่คุณเห็นตั้งแต่นอนอยู่บนเตียงก็คือ "การโฆษณา" (Advertising) ไม่เชื่อก็ลองสไลด์มือถือเฟซบุ้คของคุณดูก็ได้ โฆษณาก็จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอแบบอัตโนมัติ สิ่งที่การตลาดทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดของธุรกิจก็คือการตัดสินใจซื้อก็จะต้องเริ่มจากงานโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก ถือว่าเป็นความฟินขั้นสุดของคนทำงานเลยก็ว่าได้ และมันจะดีกว่านั้นถ้างานที่คุณรักสามารถทำเงินให้คุณได้เป็นกอบเป็นกำได้ด้วย อย่างเช่นงานขาย
นี่คือเรื่องแปลกที่คุณต้องคิดแบบนั้นแหงๆ ว่าลูกค้าด่าแล้วจะได้เงินยังไงวะ แค่ก้มหน้าก้มตาขอโทษก็แทบจะไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว พูดก็พูดเถอะ จะกล้ากลับไปสู้หน้าได้อีกรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย การที่คุณทำอะไรผิดพลาดไป แล้วมีดราม่าเกิดขึ้นจนลูกค้าไม่พอใจ โอกาสกลับมาขายใหม่นั้นมันก็ยากจริงๆ จึงทำให้ค้นพบวิธีทำให้กลับไปขายได้ และได้เงินกลับมาจนได้ เหมาะสำหรับทุกธุรกิจเลยก็ว่าได้ ทำอย่างไรที่เวลาโดนลูกค้าด่าแล้วกลับทำให้กลายเป็นซื้อคุณจนได้ ขอบอกเลยว่าทำได้จริงมาดูกันเลย
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์