4 กลยุทธ์การเติบโตในปี 2020 : สิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

4 กลยุทธ์การเติบโตในปี 2020 : สิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ


กลยุทธ์การเติบโต คือ อะไร ?
กลยุทธ์การเติบโต เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่การเติบโตตามชื่อหรือได้ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น อิกอร์ แอนซอฟฟ์ (Igor Ansoff) หรือมักจะได้ยินในนามของบิดาแห่งการบริหารเชิงกลยุทธ์ ได้แบ่งกลยุทธ์การบริหารดังกล่าวออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งคุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณได้ดังนี้

1. การเจาะตลาด (Marketing)
นี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจที่เป็นที่นิยมมากที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือถ้า คุณต้องการเจาะตลาด ด้วยสินค้าเดิมในตลาดเดิมหรือตลาดปัจจุบัน คุณสามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ : 

  • ลดราคาหรือเสนอส่วนลดพิเศษ รวมไปถึงโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นการขายสินค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น

  • พยายามเข้าไปเช็คและประเมินกลยุทธ์การตลาดของคุณอยู่เสมอ ว่าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด

เปลี่ยนช่องทางการขายของคุณ หากคุณขายสินค้าผ่านทางร้านค้าปลีกหรือช่องทางออฟไลน์ ถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มพิจารณาการขายสินค้าแบบออนไลน์แล้ว เนื่องจากในอนาคตทุกอย่างจะเป็นแบบดิจทัล ดังนั้นคุณจึงต้องเริ่มศึกษาและเรียนรู้แล้วว่า อีคอมเมิร์ซทำงานอย่างไร

เห็นได้ชัดว่า ในปัจจุบันโลคอลแบรนด์ (Local Brand) มีการลงทุนจ่ายเงินสำหรับการตลาดเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะสู้กับการแข่งขันในตลาดนั้น ๆ ได้ รวมถึงการเจาะตลาดของพวกเขา โดยเฉพาะวิดีโอที่ถูกโพสต์ในช่องทางออนไลน์ หลายคอนเทนต์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นในการเจาะตลาด แต่คุณจำเป็นต้องรู้จักคู่แข่งของคุณ เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนและถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์และเป็นประโยชน์ต่อตลาดของคุณ โดยเฉพาะคุณค่าที่ส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณ

2. การพัฒนาตลาด (Market Development)
การเติบโตแบบนี้ อีกมุมหนึ่งเป็นการขายสินค้าเดิมในตลาดใหม่ สิ่งที่คุณสามารถทำได้ถ้าเลือกใช้กลยุทธ์นี้ คือ 

  • การเปิดสาขาใหม่สำหรับธุรกิจของคุณ

  • การปรับเปลี่ยนการตลาดแบบใหม่ ด้วยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายกลุ่มหรือลูกค้าใหม่

  • การพัฒนากลยุทธ์การกำหนดราคาที่ให้เหมาะกับตลาดใหม่หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ

อย่างธุรกิจ Airbnb แม้ว่าในช่วงการเริ่มต้นธุรกิจจะพบกับความล้มเหลว แต่พวกเขาก็สามารถเข้าถึงตลาดได้ถึง 190 แห่ง เนื่องจากการยอมรับความจริงที่ว่า แต่ละตลาดต่างมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป พวกเขาจึงได้ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของพวกเขาบางจุดและเพิ่มภาษาที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับลูกค้าจากประเทศต่างๆ

สิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของ Airbnb นั้นคือ การที่นำกลยุทธ์นี้มาประยุกต์ใช้ในตลาดปัจจุบัน แต่ก็ต้องพึงคำนึงถึงว่าการนำวิธีเดียวกันมาใช้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันเสมอไป คุณจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อที่คุณจะได้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (Product Development)
กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น สำหรับตลาดกลุ่มเป้าหมายของคุณ ซึ่งถ้าคุณเลือกใช้กลยุทธ์นี้นี่คือ สิ่งที่คุณสามารถทำได้ :

  • เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้กับสินค้าหรือบริการของคุณ

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ตลาดกลุ่มเป้าหมาย

ทั้งหมดที่พูดถึงนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับนวัตกรรม หากคุณไม่ปรับตัวหรือติดตามความเคลื่อนไหวของมัน ธุรกิจของคุณอาจจะล้มเหลวได้ และนั่นคือ เหตุผลที่ทำไมโนเกีย (Nokia) ถึงต้องออกจากตลาดไป เนื่องจาก ณ ตอนนั้นโนเกีย (Nokia)  อยู่ในจุดที่สามารถขายสินค้าได้และยังเหนือกว่าคู่แข่งหลาย ๆ คน แต่เมื่อแอปเปิ้ล(Apple) เปิดตัว ไอโฟน (iPhone) ในปี 2007 มา ทำให้โนเกีย​(Nokia) ไม่สามารถตามการแข่งขันได้ทัน เพราะ แอปเปิ้ล(Apple) เปลี่ยนกลยุทธ์หรือเป็นผู้กำหนดกฎของเกมขึ้นมาใหม่ โดยนำเสนอลูกเล่นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งตอนนี้ แอปเปิ้ล(Apple) ก็ยังคงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้สาวก แอปเปิ้ล(Apple) ทั้งหลายยอมต่อคิวยาว ๆ เมื่อมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของแอปเปิ้ล(Apple) ในแต่ละครั้ง เพื่อเป็นคนแรกที่ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด

กลยุทธ์นี้มีความสำคัญสำหรับ บริษัท ซอฟต์แวร์หรือบริการ เนื่องจากต้องมีการพัฒนาและติดตามอัปเดตนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้การใส่ใจและให้ความสำคัญแก่ความต้องการของลูกค้า ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย

4. การกระจายการลงทุน (Diversification)
ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์การเติบโตแบบนี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกลยุทธ์การกระจายการลงทุนของธุรกิจนั้นเป็นการเข้าสู่ตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด แต่นี่ก็เป็น วิธีที่นักธุรกิจเศรษฐีชาวฟิลิปปินส์อย่าง จอน โกคองไว (John Gokongwei Jr.) ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ไม่เพียงแต่เขาจะประสบความสำเร็จในธุรกิจการค้าเท่านั้น แต่เขายังประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอื่น ๆ เช่น เซบูแปซิฟิก(Cebu Pacific),โรบินสันแลนด์ (Robinsons Land) และ พีจี ซัมมิท เพทโทรเซมิคอล (JG Summit Petrochemicals) อย่างไรก็ตามการที่เขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า จอน โกคองไว (John Gokongwei Jr.) จะไม่เคยพบกับความล้มเหลว เพราะอย่างการทำธุรกิจ ซัน เซลลูล่าร์ (Sun Cellular), บริษัท โทรคมนาคม ต่อมาได้ถูกขายให้กับพีแอลดีที (PLDT) เพราะฉะนั้นหากคุณเลือกกลยุทธ์นี้ คุณจำเป็นต้องเตรียมใจให้พร้อมที่จะประสบกับความล้มเหลวและการสูญเสียเช่นกัน

นี่คือ กลยุทธ์ที่คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้สำหรับธุรกิจของคุณในปีนี้ได้ แต่อย่าลืมว่า การที่บริษัทนั้น ๆ ทำแล้วประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้คุณประสบความสำเร็จด้วย คุณต้องทำการศึกษา, วางแผนและพัฒนากลยุทธ์การเติบโต เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ อย่ากลัวที่จะลองใช้กลยุทธ์ดังกล่าว สำหรับการเติบโตของธุรกิจคุณ แต่เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดล้มเหลว คุณควรมีการวางแผนให้ละเอียดและรอบคอบ

Cr.businesslinx.globallinker.com



 5722
ผู้เข้าชม
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-739-5902

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-739-5903

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์