มหากาพย์ สตีฟ จ็อบส์

มหากาพย์ สตีฟ จ็อบส์

 

มหากาพย์ สตีฟ จ็อบส์

 

 

 

       จากเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่แรกเกิด ใครจะนึกบ้างว่า สตีฟ จ็อบส์ จะกลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Apple บริษัทที่ร่ำรวยด้วยความคิดสร้างสรรค์

       ประวัติศาสตร์ยังยกย่องเขาเทียบเท่ายอดนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างโธมัส อัลวา เอดิสัน เฮนรี่ ฟอร์ด  เป็นผู้บริหารธุรกิจแห่งยุคสมัยที่จะเป็นที่จดจำไปอีกนานนับศตวรรษ

 

       สตีฟ จ็อบส์ เพิ่งอำลาโลกไปไม่นานนี้ด้วยวัยเพียง 56 ปี แต่ผลงานที่เขาสร้างสรรค์ไว้นั้น ได้เปลี่ยนประสบการณ์และวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนในโลกใบนี้ไปแล้วตลอดกาล

       ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักสตีฟ จ็อบส์ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เขาสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็น iMac และนวัตกรรมพลิกโลกของเขา คือ iTunes, iPod, iPhone และล่าสุด คือ iPad

       แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเรื่องราวในชีวิตและตัวตนที่แท้จริงของสตีฟ จ็อบส์ รวมทั้งแนวคิดและบันดาลใจเบื้องหลังงานนวัตกรรมพลิกโลกของเขา ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกเปิดเผยไว้ในหนังสือ สตีฟ จ็อบส์ ที่เขาให้ วอลเตอร์ ไอแซคสัน เป็นผู้เขียนขึ้นจากการให้ข้อมูลด้วยตัวเขาเองอย่างหมดเปลือก

 

       "ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกๆ ผมอยากให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ อีกอย่าง พอผมป่วย ผมรู้ว่าถ้าผมตายไป ก็จะมีคนเขียนถึงผม แต่เขาไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เลยเข้าใจอะไรผิดๆ กันหมด ผมอยากให้คนได้ยินสิ่งที่ผมอยากพูด"


       บุคลิกของสตีฟ จ็อบส์ สะท้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น แก่นปรัชญาของ Apple นับจาก Macintosh รุ่นแรกในปี 1984 มาจนถึง iPad ในปัจจุบัน คือ การบูรณาการฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์จากต้นจนจบ

       บุคลิกภาพของสตีฟ จ็อบส์ ก็เป็นแบบนั้น ความทุ่มเทให้กับงาน ความใฝ่ฝันที่จะสร้างงานที่สมบูรณ์แบบ ความเกรี้ยวกราดความเป็นศิลปิน ความร้ายกาจดุจปีศาจ และความหมกมุ่นที่จะบังคับควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง เหล่านี้ล้วนถักทอรวมกับแนวคิดทางธุรกิจ ผลิตออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมต่างๆ

 

       ประสบการณ์ภาคสนามที่หลอมรวมเป็นหนึ่งกับบุคลิกภาพของสตีฟ จ็อบส์ และผลิตภัณฑ์ที่เขาสร้าง มีที่มาจากลักษณะนิสัยอันโดดเด่นสุดของเขา คือ พลังความทุ่มเทอย่างแรงกล้า เสาะแสวงหาความเป็นเลิศอย่างสมบูรณ์แบบ และทำงานด้วยอารมณ์ศิลปินอย่างลุ่มลึกสุดซึ้ง  

 

       ความทุ่มเทอย่างแรงกล้านี้ ทำให้เกิดทัศนะการมองโลกอย่างสุดโต่งสองขั้ว เพื่อนร่วมงานถ้าไม่เป็นฮีโร่ ก็เป็นไอ้โง่บรมหรือบางคน อาจเป็นได้ทั้งสองอย่างในวันเดียวกัน

 

       พลังความทุ่มเทอย่างแข็งขันของจ็อบส์ ยังเห็นได้ชัดจากความสามารถในการโฟกัสเรื่องราวต่างๆ ของเขา เขาสามารถจัดลำดับความสำคัญและพุ่งแสงเลเซอร์แห่งความสนใจไปยังเรื่องนั้นๆ เช่น ส่วนประสานงานผู้ใช้ของ Macintosh รุ่นแรก หรือดีไซน์ของเครื่อง iPod และ iPhone หรือการจีบบริษัทเพลงให้นำเพลงมาขายใน iTunes Store เขาจะทุ่มไม่ยั้งและกัดไม่ปล่อย
 
 
 
 
 
 
แต่ถ้าเขาไม่อยากสนใจอะไร เช่น เรื่องน่ารำคาญทางกฎหมาย ปัญหาทางธุรกิจ การวินิจฉัยเรื่องโรคมะเร็ง หรือปัญหาในครอบครัว เขาจะตัดมันทิ้งไปเลย

       การโฟกัสแบบนี้ทำให้เขาปฏิเสธเรื่องต่างๆ ได้ เขาสามารถกอบกู้ Apple กลับมาได้ด้วยการตัดทุกสิ่งทุกอย่างและโฟกัสกับผลิตภัณฑ์สำคัญเพียงไม่กี่อย่าง เขาทำให้อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมีความเรียบง่ายด้วยการตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออก ทำซอฟต์แวร์ให้ใช้ง่ายขึ้นโดยกำจัดการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ส่วนประสานงานผู้ใช้เรียบง่ายขึ้น ด้วยการตัดตัวเลือกอื่นออกไป
 
       มหากาพย์ชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ คือ ตำนานการสร้างซิลิคอน แวลเลย์ ที่เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ในโรงรถ เติบโตจนกลายเป็นบริษัทที่มีค่ามากที่สุดในโลก เขาอาจไม่ใช่คนที่ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมด้วยตนเองมากมายนัก แต่จ็อบส์เป็นปรมาจารย์ในการประสานแนวคิด ความงามทางศิลปะ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันในแบบที่พลิกโลกพลิกอนาคต

       เขาคิดออกแบบสร้าง Mac หลังจากที่เห็นและชื่นชมส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิกด้วยวิธีที่ Xerox ทำไม่ได้ เขาสร้าง iPod ให้เป็นเครื่องมือบรรจุเพลง 1,000 เพลงไว้ในกระเป๋าในแบบที่ Sony ซึ่งเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์และทรัพยากรมากมาย ไม่อาจทำได้

       ผู้นำหลายคนผลักดันให้เกิดนวัตกรรมได้ด้วยการมองภาพใหญ่แต่บางคนอาจทำได้ด้วยการให้ความสำคัญกับการลงรายละเอียด จ็อบส์ทำได้ทั้งสองอย่างและทำอย่างไม่ลดละ ผลลัพธ์ คือ เขาสามารถผลักดันและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พลิกโลกอุตสาหกรรมหลายอย่างได้ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

       จ็อบส์ไม่ได้เป็นแค่มนุษย์ฉลาดปราดเปรื่อง แต่เขา คืออัจฉริยะ หากมองถึงจินตนาการอันก้าวไกลของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากสัญชาตญาณ เหนือความคาดคิด จ็อบส์คือตัวอย่างของสิ่งที่นักคณิตศาสตร์อย่างมาร์ก แค็ค เรียกว่า อัจฉริยะแบบนักมายากล หยั่งรู้ได้เองและต้องอาศัยญาณพิเศษ มากกว่าพลังความคิดด้วยสติปัญญา

       เขาเหมือนผู้ค้นพบเส้นทาง สามารถซึมซับข้อมูล สูดอากาศ แล้วล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

       แม้ว่าการทำงานร่วมกับเขาจะเป็นประสบการณ์ที่ร้ายกาจมากพอๆ กับที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล แต่เขาสามารถปลูกฝังแนวทางการออกแบบที่สอดคล้องกับเหตุและผล สมบูรณ์แบบด้วยจินตนาการอันเลอเลิศไว้ในดีเอ็นเอของบริษัท ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่รุ่งโรจน์อยู่ ณ จุดกึ่งกลางระหว่างเส้นทางสายศิลปะกับเทคโนโลยี อีกยาวนานหลายสิบปีนับจากนี้ไป





บทความโดย : คุณวิโรจน์  เย็นสวัสดิ์  |  Facebook 

 7943
ผู้เข้าชม
คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

คอร์สอบรมการใช้งานโปรแกรม

ลูกค้าโปรซอฟท์ อบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ศูนย์ Prosoft Training Center
ติดต่อเรา

ติดต่อฝ่ายขาย

02-402-6117, 081-359-6920

sale@prosoft.co.th

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมบัญชี

02-096-4900 กด 2 (AUTO)

02-402-8107

support@prosoftwinspeed.com

ติดต่อฝ่ายบริการ โปรแกรมเงินเดือน

02-096-4900 กด 3 (AUTO)

02-402-8138

support@prosofthrmi.com

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์