เพย์พอล ผู้ให้บริการการเงินทางอินเตอร์เน็ต อ้างผลวิจัยจากบริษัทวิจัยนีลเสน ที่ระบุว่าการซื้อของทางอินเทอร์เน็ตข้ามพรมแดนในฮ่องกง แคนาดา ออสเตรเลีย เยอรมนี จีน อังกฤษ และสหรัฐ จะมีมูลค่ารวมกัน 105,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเป็น 307,000 ล้านดอลลาร์ ในอีกห้าปีข้างหน้า
ประธานบริษัทเพย์พอล นายเดวิด มาร์คัส กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตทำให้ร้านค้าท้องถิ่นสามารถจำหน่ายสินค้าแก่ผู้บริโภคได้ทั่วโลก ลูกค้าผู้ใช้บริการด้านการเงินของบริษัทมากกว่า 25% ล้วนทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต
สหรัฐเป็นตลาดซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมที่สุด ตามด้วยอังกฤษ จีน และฮ่องกง ขณะที่จีน อาร์เจนตินา รัสเซีย บราซิล และออสเตรเลีย เป็นจุดหมายยอดนิยมในการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ
ข้อมูลจากนีลเสน พบว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อของทางอินเตอร์เน็ตข้ามพรมแดน จะบริโภคสินค้าประเภทเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับในวงเงินมูลค่า 12,500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่มีการบริโภคสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามมูลค่า 7,600 ล้านดอลลาร์
นายมาร์คัสชี้ว่าสัดส่วนในการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตข้ามพรมแดน ไม่เคยถูกวิเคราะห์ละเอียดเช่นนี้มาก่อน และผลวิจัยพบว่า ตลาดซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งกลุ่มลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยตรงจากผู้ขายทั่วโลก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจและธุรกิจรายย่อยทั่วโลก
การศึกษาระบุว่า บ่อยครั้งที่กลุ่มลูกค้าการไม่สามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ในตลาดท้องถิ่น ประกอบกับราคาเสนอขายที่ถูกกว่า ทำให้การซื้อขายออนไลน์จากร้านค้าทั่วโลกได้รับความนิยมสูง
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ประจำวันที่ 24 ก.ค. 56 (http://www.bangkokbiznews.com/)
